ทำไมเเด็กๆไม่ควรดื่มชา ดื่มแล้วมีโทษอย่างไร

เด็กๆไม่ควรดื่มชา

ใบชา ที่ผู้คนทั่วไปชอบดื่มกันนั้น มันมีคาเฟอีน ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เหมือนกันกับเมล็ดกาแฟ ผลโกโก้และผลโคล่า และเจ้าคาแฟอีนนี้ก็เป็นสารเสพติด ถ้าได้ดื่มบ่อยแล้วไม่ได้ดื่ม จะมีอาการเหมือนคนติดสารเสพติดแล้วอดไม่ได้ แล้วชามีประโยชน์หรือโทษอย่างไร ทำไมเด็กๆถึงไม่ควรดื่มชา


บุคคลที่ไม่ควรดื่มชา

1. เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ  เพราะ กรดแทนนิคในน้ำใบชาจะไปรวมตัวกับธาตุเหล็กในกระเพาะอาการและลำใส้แล้วจะเป็นสารที่ไม่ละลายได้ จะทำให้เด็กไม่โต ขาดธาตุเหล็กและเป็นโรคโลหิตจาง
2. ผู้ที่มีอาการไตบกพร่อง เพราะ ไตจะไม่สามารถขับน้ำออกทางปัสสาวะได้เป็นปกติ เนื่องจากการดื่มน้ำชาจะทำให้ปัสสาวะบ่อย
3. ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารและลำไส้ ห้ามดื่มน้ำชาเวลาท้องว่าง เพราะจะทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ดูดซึมวิตามิน B2 และธาตุเหล็กได้ไม่เต็มที่
4. สตรีที่รับประทานอยาคุมกำเนิด เพราะกรดแทนนิคในน้ำชาจะไปลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด และทำให้ยาคุมกำเนิดละลายยาก
5. สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพราะนำ้ชาจะทำให้เด็กขาดธาตุเหล็กเป็นโรคโลหิตจาง
6. ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ เพราะในนำ้ชามีคาแฟอีน จะไปกระตุ้นการทำงาน
7. ผู้ที่มีไข้สูง เพราะน้ำชาอุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นอีก

ไม่ควรดื่มชาเมื่อใด

1. ไม่ควรดื่มชาขณะกินยา เพราะสารต่างในน้ำชาจะทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง หรืออาจก่อให้เกิดสารพิษได้
2. ไม่ควรดื่มก่อนนอน เพราะในน้ำชามีคาแฟอีนกระตุ้นให้ตื่น
3. ไม่ควรดื่มชาขณะร้อนจัด เพราะจะทำให้เิกดอันตรายกับช่องปาก ลำคอและลำไส้
4. ไมควรดื่มชาที่ชงค้างคืน เพราะ สารอาหารต่างๆในนำ้ชาจะเสื่อมคุณภาพ 
5. ไม่ควรดื่มชาเพื่อแก้ง่วง เพราะเมื่อสารกระตุ้นในน้ำชาหมดฤทธิ์ลง จะให้ร่างกายอ่อนเพลีย และทรุดโทรม

ประโยชน์ของน้ำชา

1. ช่วยในการไหลเวียนโลหิต
2. ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผนังเส้นเลือดและการขยายต้วของหลอดเลือด
3. ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล (LDL)ในเส้นเลือด
4. ช่วยลดความเคลียด
5. ช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูกได้ (ชาอุูหลง)
6. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง (กระเพราะอาหาร)
7. ช่วยระงับกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ
8. ขับปัสสาวะ
9. ชลอความแก่ (สารต้านอนุมูลอิสระ)
10. บำรุงสายตา และหัวใจ
11. บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ชนิดของชา

การแบ่งชนิดของชาจะแบ่งตามกระบวนแปรรูป ได้ 6 ชนิด

1. ชาขาว คือ ใบชาที่ทิ้งให้สลดแต่ไม่บ่ม
2. ชาเหลือง คือ ใบชาที่ไม่ได้ถูกทิ้งให้สลด และไม่บ่ม แต่ทิ้งให้เป็นสีเหลือง
3. ชาเขียว คือ ใบชาที่ไม่ได้ถูกทิ้งให้สลด และไม่บ่ม 
4. ชาอูหลง คือ ใบชาถูกทิ้งให้สลด นวดและบ่มเล็กน้อย
5. ชาดำ คือ ใบชาถูกทิ้งให้สลด นวดอย่างแรง และบ่มเต็มกระบวนการ
6. ชาหมัก คือ ชาเขียวที่ผ่านการหมักนานนับปี

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก 

1. www.eatwellbyamornrat.wordpress.com
2. www.icontea.com
3. www.group.wunjun.com
4. www.laotinghotel.com
5. www.drinktealike.com

รายได้เสริมอื่นที่น่าสนใจ

รายได้เสริมทำที่บ้าน

รายได้เสริมคีย์ข้อมูล